Recent posts

#1

Ford Ranger 2.0 Bi-Turbo STORMTRAK 10AT 4WD รถกระบะเอนกประสงค์ ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่ง ความแรง และความดุดัน เป็นรถที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานครบทุกประเภท และในปีนี้ ฟอร์ด ก็ได้เพิ่มความพิเศษต่างๆ ให้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนอีกเยอะเลย และที่สำคัญราคาก็ไม่ได้แพงเกินเอื้อม ราคาเทียบเท่ากับกระบะยี่ห้ออื่นๆ เลย

เครื่องยนต์และสมรรถนะ
•    เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่
•    ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที
•    แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที
•    ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter
•    ขับเคลื่อน 4 ล้อ
•    รองรับน้ำมันชนิด ดีเซล

ดีไซน์ภายนอก
ออกแบบมาให้ดูแข็งแกร่ง และดูสปอร์ต รุ่นนี้ได้เป็นไฟหน้า Matrix LED ระบบปรับมุมแสงอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างตอนกลางวันแบบ Daytime Running Lights, ไฟท้ายแบบ LED, ระบบปัดน้ำฝนแบบเปิดปิดอัตโนมัติ,กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า,ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ,สปอร์ตบาร์ และ ราวหลังคา, บันไดสำหรับขึ้นด้านข้าง และ บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย, ฝาท้ายแบบผ่อนแรง ทำให้รู้สึกเบา

ดีไซน์ภายใน
Ford Ranger 2.0 Bi-Turbo STORMTRAK 10AT 4WD ตกแต่งให้ลงตัวในแบบสปอร์ตโดยใช้สีดำ และหนังสังเคราะห์แถบสีแดง ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบเต็มตัว, จอสีขนาด 12 นิ้ว แบบมัลติทัช, รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth สามารถใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto ได้, เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง, มาตรวัดแบบ Full Digital แบบสี ขนาด 8.0 นิ้ว, ระบบปรับอากาศแยกอิสระ แบบอัตโนมัติ, ไฟในห้องโดยสาร Ambient Light, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าคู่หน้า, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติได้, ระบบ Engine Remote Start, เบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง

เทคโนโลยีและความปลอดภัย
ระบบเบรกแบบ ABS ระบบช่วยในการกระจายแรงเบรก, ตัวช่วยควบคุมในการทรงตัว, ระบบเปิด-ปิดไฟสูง อัจฉริยะ, ตัวช่วยเตือนการชนด้านหน้า,ตัวช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, มีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะที่ออกตัว ระบบช่วยในการออกตัวและหยุดบนที่ลาดชัน, ตัวช่วยควบคุมความเร็วขณะรถลงเขา, เบรกมือแบบไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง พร้อมกับการโทรฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ, สัญญาณเตือนเมื่อเข้าจอด,ระบบเตือนมุมอับสายตา, กล้องมองรอบคัน 360 องศา เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่, ตัวช่วยป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง

ราคาจำหน่าย 1,399,000 บาท

หากคุณมองหารถกระบะที่มีความครบเครื่อง ใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ต้องไปหารุ่นอื่นแล้ว แนะนำว่าเลือก Ford Ranger 2.0 Bi-Turbo STORMTRAK 10AT 4WD รับรองว่าจบทุกอย่างในรุ่นนี้ ราคาเพียงแค่ล้านต้นๆ แต่ได้กระบะที่สุดยอดที่สุดของโลก โดยเฉพาะความแข็งแกร่ง พละกำลังของเครื่องยนต์ รุ่นนี้มีเต็มเปี่ยม ซื้อมาแทบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะว่ารถเดิมก็แต่งมาให้หล่อมากพอแล้ว
#2

Mini Cooper SE ปี 2023 รถสุดคลาสสิคที่คงความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเอาไว้ไม่เหมือนใคร แต่ออกแบบมาให้รถมีความทันสมัยไม่ตกยุค กลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดไปทั่วโลก ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็ขายได้เทน้ำเทท่าไปซะหมด แล้วรุ่นล่าสุดอย่างรุ่นนี้ เป็นอีกรุ่นที่หลายคนจับตามองมากๆ แล้วจากประสิทธิภาพต่างๆที่ให้ ต้องบอกว่าโดนใจสาวกและหน้าใหม่ที่คิดอยากจะลองซื้อมาขับบ้างไม่น้อยทีเดียว

   
สมรรถนะของรถ
ให้พละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ ต่อ 184 แรงม้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูงจึงสามารถส่งแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรได้ในทันทีที่เท้าเหยียบคันเร่งแม้ว่ารถจะอยู่นิ่งก็ตาม สามารถส่งความเร็วจาก 0 ไปถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที ซึ่งทำได้เทียบชั้นรถสปอร์ตกันเลย และยังสามารถเร่งความเร็วจากรถที่หยุดยิ่งไปจนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที แล้วตัวของ Mini Cooper SE ปี 2023 ยังทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 217 กิโลเมตร ตามมาตรฐานของ NEDC

ดีไซน์ภายนอก Mini Cooper SE ปี 2023
-    ล้อแม็ก ขนาด 17
-    สปอยเลอร์หลังมาพร้อมไฟเบรค พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Dynamic Damper Control
-    ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก แบบ LED
-    ระบบควบคุมระยะการจอดด้านหลัง ด้วยมาตรฐานของ PDC
-    ไฟหน้าให้ความสว่างอัตโนมัติ
-    ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ และ ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
-    หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ
-    ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง

ดีไซน์ภายใน Mini Cooper SE ปี 2023

-    เบาะผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ตามใจชอบ เช่นกันกับเบาะผู้โดยสารด้านหน้า
-    ระบบนำทาง Navigator ที่ทันสมัย
-    ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
-    พวงมาลัยหุ้มหนัง แล้วยังปรับสูง-ต่ำได้
-    เน้นภายในโทนสีดำที่สวยงามคลาสิค
-    กระจกมองหลังตัดแสงในเวลากลางคืนที่ดี
-    มีระบบ Mini Controller สุดอัจริยะแบบสัมผัส
-    ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ให้เข้ากับทุกคน

สำหรับ Mini Cooper SE 2023 นี้ยังมีระบบความปลอดภัยมาแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ที่จะทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติจะไม่เป็นอันตรายอย่างที่คิด นอกจากนั้นแล้วด้วยแบรนด์ระดับโลกอย่าง MINI ที่เชื่อถือได้ เมื่อได้ซื้อไปเป็นเจ้าของได้ครอบครองแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนราคาของรถรุ่นนี้จะอยู่ประมาณ 2,459,000 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมกับรถ รถเก๋ง 3 ประตู เทคโนโลยี Electric – EV ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ไฟแรง 2023 ตัวจริง และรถรุ่นนี้ยังให้ความคลาสสิคที่หาจากรุ่นไหนๆไม่ได้อีกด้วยบนโลกใบนี้
#3

Toyota Revo Smart Cab 4x4 2.8 Rocco AT รถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่เกิดมาเพื่อลุยโดยเฉพาะ รุ่นนี้มีการเพิ่มชุดแต่งพิเศษมาหลายอย่าง เพื่อให้ดูพรีเมียมมากขึ้น น่าใช้มากขึ้น ซึ่งในรุ่นก่อนๆ ก็ได้มีการพัฒนาหน้าตาให้น่าใช้อยู่แล้ว แต่รุ่นนี้มีความพิเศษหลายอย่าง ที่จะทำให้ทุกท่านได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ โตโยต้า รีโว่ ของปี 2023 ว่าสุดยอดแค่ไหน เชื่อว่าแค่ได้เห็นอย่างเดียว ทุกคนก็อยากจะลองขับเองบ้างแล้ว

เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ในรุ่นนี้จะได้เป็นเครื่องยนต์แบบใหม่คือ 1GD-FTV (High) 4 สูบแถวเรียง 2,755 ซีซี DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
•   ขนาดเครื่องยนต์ (CC) 2,755 CC
•   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า) 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร/รอบต่อนาที
•   ระบบเกียร์ เกียร์ออโต้ 6AT
•   รูปแบบเกียร์ พร้อม Sequential Shift
•   รองรับน้ำมัน ดีเซล
•   ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร

ดีไซน์ภายนอก
ด้านนอกตกแต่งด้วยลายสีดำ ที่ทำให้ดูดุดัน แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รุ่นนี้มาพร้อมกันไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติ มาพร้อมกับระบบ Follow-me-home, กระจกหลังเป็นแบบกระจกไล่ฝ้า,ไฟตัดหมอกด้านหน้าเป็นแบบ LED,กระจกมองข้างเป็นแบบไฟเลี้ยวในตัวพร้อมกับเก็บอัตโนมัติ,ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว,รุ่นนี้จะได้ของแต่งพิเศษเฉพาะด้วย เช่น บันไดข้างสีดำ,สปอร์ตบาร์,พื้นสำหรับปู,สติ๊กเกอร์ เป็นต้น

ดีไซน์ภายใน
ภายในของ Toyota Revo Smart Cab 4x4 2.8 Rocco AT  ต้องบอกว่าจัดเต็มกว่าเดิมเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์แสดงข้อมูลการขับขี่ด้วยจอสีแบบ TFT,ระบบนำทาง ที่สามารถเชื่อต่อกับ T-connect ได้,เบาะคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำได้ตามสรีระ,พวงมาลัยปรับระดับสูงต่ำได้,ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำ ดูหรูหรา,ปลั๊กสำหรับเชื่อมต่อไฟ 12 โวลต์ และ 220 โวลต์ 1 ตำแหน่ง

เทคโนโลยีและความปลอดภัย
รุ่นนี้ให้ระบบความปลอดภัยมาครบมาก เรียกว่าครบที่สุด ได้แก่ ถุงลมนิรภัย,ตัวถังแบบนิรภัย,เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ,พวงมาลัยที่สามารถยุบตัวได้,ระบบล็อคประตูแบบอัตโนมัติ,คานเหล็กที่เสริมความแข็งแรงเพิ่มความปลอดภัย,ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอัตโนมัติ,ระบบออกตัวช่วยป้องกันล้อฟรี,กล้องบันทึกขณะขับขี่,ตัวช่วยเตือนเมื่อเข้าสู่จุดอับสายตา,ตัวช่วยในการออกตัวเมื่ออยู่ในที่ลาดชัน,ตัวช่วยในการควบคุมการทรงตัว

ราคาจำหน่าย 1,131,000 บาท
ต้องบอกว่าเป็นตัวจบได้เลย สำหรับ Toyota Revo Smart Cab 4x4 2.8 Rocco AT  เพราะว่าให้ทุกอย่างมาครบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือในด้านความปลอดภัย รุ่นนี้ก็มีให้ทุกอย่าง และด้วยราคาเพียงล้านต้นๆ ถือว่าเกินคุ้มทีเดียว
#4

เมื่อเอ่ยชื่อถึง เกาะพีพี ทุกคนเป็นต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และปะการัง ใครเห็นเป็นต้องชอบแน่นอน นักท่องเที่ยวที่มาได้มาเยือนที่เกาะแห่งนี้ ก็ต่างยกให้เกาะพีพี เป็นเกาะหนึ่งที่สวยงามที่สุดของโลกเลย ใครที่มาเที่ยวจังหวัดกระบี่ แล้วไม่ได้มาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ บอกเลยว่าพลาดมาก วันนี้เราเลยอยากพาทุกท่านมาดูรายละเอียดของเกาะพีพีกัน เผื่อท่านใดที่กำลังวางแผนอยากเที่ยวอยู่

กิจกรรมที่น่าสนใจ

สำหรับชื่อของ เกาะพีพี เป็นชื่อที่มาจากต้นไม้ที่อยู่บนเกาะแห่งนี้  ที่ชื่อว่าต้น ปิอาปิ แต่เรียกให้ง่ายขึ้นว่าเกาะพีพี ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยก็ว่าได้ ถ้าถามนักดำน้ำว่าอยากไปดำที่ไหน เกาะไหนที่สวยที่สุดในประเทศไทย ธรรมชาติใต้น้ำที่สวยที่สุด เชื่อว่านักดำน้ำส่วนมาก ต้องเลือกที่เกาะพีพี เป็นอันดับหนึ่งชัวร์ แม้แต่นักดำน้ำก็ยังยอมรับ และกิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะพีพีได้แก่
•   กิจกรรมดำน้ำ เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คนที่ดำน้ำไม่เป็น ไม่เคยมาก่อน ก็สามารถมาฝึกที่นี่ได้ แล้วคุณจะได้ชมความงามของปะการังใต้น้ำ มีทั้งปลาสวยงาม รวมถึงดอกไม้ทะเลด้วย เหมาะกับการถ่ายภาพใต้น้ำสวยๆ กลับไปด้วย
•   เดินชมหาด หากท่านต้องการชมความงามของเกาะ ที่นี่มีหาดทรายที่ขาวสะอาดและสวยงาม ให้ท่านได้เดินเล่น มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกทานเยอะด้วย นั่นก็คือที่ อ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม หรือท่านใดอยากจะลงเล่นน้ำ ก็ลงเล่นที่สองอ่านนี้ได้เช่นกัน
•   ชมหมู่บ้านของชาวเล มีอยู่ประมาณ 20 ครอบครัว และตรงจุดนี้ท่านยังลงเล่นน้ำได้ด้วย น้ำใสสะอาดมากๆ และหาดก็ขาวเนียนสุดๆ เหมาะกับการนอนอาบน้ำ และเดินชมวิวพักผ่อน
•   ชมถ้ำไวกิ้ง เป็นถ้ำที่สวยงามมากๆ ข้างในภาพเขียนของฝีมือโจรสลัด ให้ท่านได้ศึกษาได้ดูควาสวยงาม

การเดินทาง
ท่านสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถยนต์ เครื่องบิน และรถไฟ แต่หลังจากที่มาถึงจังหวัดภูเก็ต หรือจังหวัดกระบี่แล้ว ท่านต้องนั่งเรือต่อไปยังเกาะพีพี ค่าเดินทางไม่เกิน 500 บาท

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
เรื่องที่พักและอาหารบนเกาะพีพี มีให้เลือกพักหลายรูปแบบ ส่วนร้านอาหารก็เยอะเช่นกัน มีตลอดริวหาดเลย สายกินมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง แต่ถ้าท่านต้องการอยากเที่ยวในช่วงวันหยุด หรือเทศกาล แนะนำว่าให้ท่านหาที่พัก และจองเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด เพราะว่านักท่องเที่ยวในช่วงนี้จะเยอะเป็นพิเศษ อาจจะทำให้ลำบากมากขึ้นในการจอง

พิกัดของ เกาะพีพี
ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา
#5

ประวัติ เดเล่ อัลลี่ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของ เอฟเวอร์ตัน
ทีมชาติ : อังกฤษ 37 นัด – 5 ประตู (2015-?)
สโมสรปัจจุบัน : เอฟเวอร์ตั้น 13 นัด – 0 ประตู (2021-?)

เดเล่ อัลลี่ (Dele Alli) เกิดวันที่ 11 เมษายน 1996 ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับสโมสร มิลตั้นคีย์ ดอนส์ ในปี 2007 แล้วได้เริ่มอาชีพระดับลีกวัน ฤดูกาล 2012/13 ลงเล่น 7 นัดรวมทุกรายการยิง 1 ประตู จากนั้นอีก 2 ซีซั่น ยิงอีก 23 ประตูจาก 81 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งนั่นทำให้ สเปอร์ ซื้อตัวไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาล 2014/15

ฤดูกาล 2015/16 เดเล่ อัลลี่ ยึดตัวหลักของ สเปอร์ ได้ทันที เป็นแผงมิดฟิลด์ชุดแรกร่วมกับ คริสเตียน อีริคเซ่น, เอริค ลาเมล่า และ มูซ่า เดมเบเล่ ลงเล่น 46 นัดรวมทุกรายการ ยิง 10 ประตู ซึ่งทุกลูกที่ยิงได้ เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 2016/17 เดเล่ อัลลี่ ยังร้อนแรงไม่เลิก กดไปอีก 22 ประตูจาก 50 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็นการยิงในพรีเมียร์ลีก 18 ประตูจาก 37 นัด คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ของพรีเมียร์ลีกได้อีกสมัย พาทีมจบด้วยรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ตามหลัง เชลซี 7 คะแนน และเข้าถึงรอบรองฯ ฟุตบอลเอฟเอคัพ

ฤดูกาล 2017/18 เดเล่ อัลลี่ ยังเป็นแกนหลักของ สเปอร์ แต่ฟอร์มดร็อปลงมานิดหน่อย ยิงได้ 14 ประตู จาการลงเล่น 50 นัดรวมทุกรายการ พาไก่เดือยทองจบที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก และผ่านเข้ารองรองฯ เอฟเอคัพ ได้อีกครั้ง ขณะที่ฤดูกาล 2018/19 มีอาการบาดเจ็บรบกวน ได้ลงสนาม 38 นัดรวมทุกรายการ ยิง 7 ประตู

ฤดูกาล 2019/20 เดเล่ อัลลี่ ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนในช่วงต้นและท้ายฤดูกาล ลงเล่น 38 นัดรวมทุกรายการ ยิง 9 ประตู จ่าย 6 แอสซิสต์ แล้วฤดูกาลต่อมา อัลลี่เริ่มได้รับโอกาสน้อยลง ผ่าน 23 นัดแรกของซีซั่น 2020/21 เขาได้ลงเล่นแค่ 4 นัดในฐานะสำรองทั้งหมด จบฤดูกาลนั้นได้ลงเล่น 29 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู จ่าย 5 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2021/22 เดเล่ อัลลี่ กลับมายึดตัวจริงของ สเปอร์ ได้ในช่วง 5 นัดแรก แต่หลังจากนั้น กลายเป็นตัวเลือกรองถัดจาก ซอน เฮือง มิน และ ลูคัส มูร่า แล้วถูกปล่อยให้ เอฟเวอร์ตั้น ในตลาดหน้าหนาว ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 11 นัด (ตัวจริง 3 สำรอง 8)

ฤดูกาล 2022/23 เดเล่ อัลลี่ ตกเป็นตัวเลือกรองถัดจาก ดไวท์ แม็คนีล และ เดมาราย เกรย์ ได้ลงเล่นให้ เอฟเวอร์ตั้น แค่เพียง 2 นัด ก็โดนปล่อยให้ เบซิคตัส (ตุรเคีย) ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งได้รับโอกาสมากพแสมควรในช่วงแรก หลังจากนั้นกลายเป็นตัวเลือกรองของทีม บวกกับอาการบาดเจ็บ ทำให้ได้ลงเล่นเพียง 15 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู
#6

การแข่งขันโอลิมปิกคือมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเป็นการรวบเราเอานักกีฬาที่เก่งที่สุดดีที่สุดของแต่ละประเทศมาแข่งขันกัน เพื่อหาคนที่เก่งที่สุดในโลกเพียงหนึ่งเดียว ทำให้การคว้าเหรียญทองมาครองได้ มันคือความภาคภูมิใจอย่างที่สุดกับครั้งหนึ่งชีวิตที่ก้าวไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นนักกีฬา แล้วบทความนี้จะมาย้อนดูยัง 4 นักมวยคนไทย ที่ไปผงาดคว้าแชมป์เหรียญทองมวยสากลในโอลิมปิกมาครองได้ ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องเล่าบทตำนานที่จะถูกเล่าขานกันไปไม่รู้จบ

4 ตำนานนักมวยไทยคว้าทองโอลิมปิก

1.   สมรักษ์ คำสิงห์
นี่คือนักมวยไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ของชายที่ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์เหรียญทองมาครองได้ สมรักษ์ คำสิงห์ โดยทำได้ในโอลิมปิกปี 1996 ช่วงนั้นต้องบอกว่าได้สร้างความภูมิใจให้กับประเทศไทยอย่างที่สุด ทั้งได้สร้างชื่อเสียงให้มวยไทยโด่งดังไปไกลทั่วโลกอย่างรวดเร็ว จากนั้น สมรักษ์ ได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของคนทั้งประเทศ ที่ต้องยอมรับหัวจิตหัวใจของเขาที่ต่อสู้ดิ้นรนฝึกมวยมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับเวทีระดับโลก

2.   วิจารณ์ พลฤทธิ์
คนที่ 2 ที่คว้าเหรียญทองมาให้คนไทยได้ ก็คือ วิจารณ์ พลฤทธิ์ ซึ่งเขาคือมวยที่ไม่ได้รับการคาดหวังหรือจับตาเท่าไหร่ในการลงแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี 2000 เพราะเป็นหน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาไม่นาน แต่ทว่าผลงานในปีนั้นสุดยอดตั้งแต่รอบแรก กระทั่งฝ่าฟันไปถึงรอบชิงชนะเลิศอย่างเหนือความคาดหมาย ก่อนจะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยชั้นเชิงที่เหนือชั้น ผงาดคว้าเหรียญทองมาให้ประเทศไทยได้อย่างน่าประทับใจ

3.   มนัส บุญจำนงค์
มนัส ต่างจาก วิจารณ์ พลฤทธิ์ อย่างมาก ในฐานะของนักมวยที่โดนคาดหวังเยอะว่าจะต้องชนะให้ได้ เพราะด้วยฝีมือที่นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นคนหนึ่งในวงการมวยช่วงนั้น แล้วเขาก็ไม่ทำคนไทยทั้งประเทศต้องผิดหวัง เมื่อไปถึงเส้นชัยเหรียญทองโอลิมปิกได้เมื่อปี 2004 แล้วจากนั้น 4 ปีต่อมาลงแข่งอีกครั้งในปี 2008 แม้ครั้งนี้จะจบด้วยเหรียญเงิน แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ มหัส ขึ้นเป็นมวยระดับตำนานอีกคนของประเทศ

4.   สมจิตร จงจอหอ
แล้วคนสุดท้ายล่าสุดที่คว้าเหรียญทองได้ก็คือ สมจิตร มวยมากฝีมือจอมเก๋าที่ผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนคิดอยากจะเลิกต่อยมวย แต่ด้วยแรงใจที่หนักแน่นขอกัดฟันสู้ต่อ จนสามารถทำได้ในโอลิมปิกปี 2008 ที่พิชิตเหรียญทองมาครองได้ นับว่าเป็นตัวแทนของความพยายามที่น่าชื่นชมที่สุดอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว
#7

ไอแวน โทนีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ เบรนท์ฟอร์ด
ทีมชาติ : อังกฤษ 1 นัด – 0 ประตู (2023-?)
สโมสรปัจจุบัน : เบรนท์ฟอร์ด 124 นัด – 68 ประตู (2020-?)

ไอแวน โทนีย์ (Ivan Toney) เกิดวันที่ 16 มีนาคม 1996 ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ สโมสร Northampton Town (ลีกทู) แล้วได้สัญญาอาชีพกับทีมในปี 2012 อยู่กับทีมจนจนฤดูกาล 2014/15 ลงเล่น 60 นัดรวมทุกรายการ ยิง 13 ประตู
ฤดูกาล 2015/16 ไอแวน โทนีย์ ถูกทางด้าน นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีก) ซื้อตัวไปร่วมทีม ได้สัมผัสพรีเมียร์ลีก 2 นัด แบ่งเป็น 5 นาทีในเกมเสมอ เชลซี 2-2 และอีก 5 นาทีในเกมแบ่งแต้ม แมนฯยู 3-3 จากนั้นในฤดูกาลเดียวกัน ถูกส่งให้ บาร์นสลีย์ (ลีกวัน) ยืมตัวไปใช้งาน ลงเล่น 21 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู

ฤดูกาล 2016/17 ไอแวน โทนีย์ ไปเก็บเลเวลกับ ชรูส์บิวรี่ย์ ทาวน์ (ลีกวัน) ลงเล่น 26 นัด ยิง 7 ประตู แล้วในครึ่งหลังของซีซั่นเดียวกัน ไปเล่นกับ สคันธอร์ป ลงสนาม 17 นัด ยิง 7 ประตู แล้วเข้าสู่ฤดูกาล 2017/18 โทนีย์ยังถูกส่งไปเล่นกับ วีแกน (ลีกวัน) ลงเล่น 28 นัดรวมทุกรายการ ยิง 8 ประตู แล้วในครึ่งหลังของซีซั่นเดียวกัน ถูกส่งไปอยู่กับ สคันธอร์ป (ลีกวัน) ลงเล่น 18 นัด ยิง 8 ประตู

แม้ว่าผลงานจะไม่แย่ แต่ไม่เพียงพอต่อการได้เป็นตัวหลัก นิวคาสเซิล จึงปล่อยให้ ปีเตอร์โบโร่ (ลีกวัน) ซื้อตัวไปด้วยราคา 6 แสนปอนด์ แล้วเปิดหัวฤดูกาล 2018/19 ด้วยการยิง 23 ประตูจาก 55 นัดรวมทุกรายการ แล้วยิงอีก 26 ประตู จาก 39 นัด ในฤดูกาล 2019/20 ซึ่งผลงานดังกล่าว ไปต้องตา เบรนท์ฟอร์ด (เดอะ แชมป์เปียนชิพ) จึงถูกซื้อตัวไปร่วมทีม

ฤดูกาล 2020/21 ไอแวน โทนีย์ กลายเป็นกำลังสำคัญของ เบรนท์ฟอร์ด ยืนแนวรุกร่วมกับ ไบรอั้น เอ็มบูโม่ และ เซร์กี้ คานญอส เปิดตัวฤดูกาล 2 นัดแรกยังยิงไม่ได้ จากนั้นมีส่วนร่วมในการทำประตู 8 นัดติดต่อกัน ผ่าน 10 นัดแรก โทนีย์ยิง 10 ประตู พ่วง 1 แอสซิสต์ พาทีมขึ้นไปอยู่ครึ่งบนของตาราง จบฤดูกาลดังกล่าว โทนีย์ยิงในลีก 33 ประตู พ่วง 10 แอสซิสต์ พาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ด้วยการเพลย์ออฟชนะ สวอนซี 2-0 ซึ่ง 1 สกอร์ในเกมนั้น มาจากฝีเท้าของเขาด้วย

ฤดูกาล 2022/23 ไอแวน โทนีย์ เปิดตัวในพรีเมียร์ลีกได้อย่างเร้าใจ นัดแรกของซีซั่น ยิง 1 ประตูใส่ เลสเตอร์ (เสมอ 2-2) แล้วนัดที่ 2 จ่าย 2 แอสซิสต์ให้ทีมถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ขณะที่เกมที่ 3 ยิง 1 สกอร์ในเกมแพ้ ฟูแล่ม 2-3 จากนั้นก็ทำผลงานได้ดีเรื่อยมา จบฤดูกาลด้วยการลงเล่น 35 นัดรวมทุกรายการ ยิง 21 ประตู จ่าย 5 แอสซิสต์

18 พฤษภาคม 2023 ช่วงท้ายฤดูกาล 2022/23 ไอแวน โทนีย์ ถูกตรวจพบว่าเล่นพนัน ซึ่งผิดกฎในการเป็นนักเตะอาชีพ จึงถูกสั่งแบนเป็นเวลา 8 เดือน ทำให้พลาดลงเล่นในฤดูกาล 2023/24
#8

บทความนี้ได้นำเอาข้อมูลที่หลายคนอยากรู้ที่อัพเดทกันสดๆร้อนๆในช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2023 ถึงนักฟุตบอลที่ใครบ้างที่ยิงประตูรวมได้มากที่สุดในโลกในเกมอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งครั้งหนึ่ง เปเล่ ยอดตำนานทีมชาติบราซิล เคยออกมาบอกว่าเขายิงประตูรวมทั้งชีวิตมากกว่า 1,000 ลูกมาแล้ว แต่ทั้งนั้นมีเกมที่ไม่ได้เป็นทางการอยู่หลายนัด จึงไม่ได้ถูกนับเอามารวมไว้ในสถิติด้วย หากว่าอยากรู้กันแล้ว ก็ไปดูกันได้เลยว่าทั้ง 20 อันดับนักเตะ มีใครกันบ้างที่ยิงประตูได้เยอะที่สุดในโลกตลอดกาล

20 นักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาล

20. Zico ลงเล่น 773 ยิงรวม 523 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1971-1994
19. Alfredo Di Stéfano ลงเล่น 739 ยิงรวม 523 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1945-1966
18. Isidro Lángara ลงเล่น 437 ยิงรวม 525 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1930-1948
17. Jimmy McGrory ลงเล่น 522 ยิงรวม 528 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1922-1937
16. Uwe Seeler ลงเล่น 653 ยิงรวม 535 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1954-1978
15. Luis Suárez ลงเล่น 906 ยิงรวม 542 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 2005 - ปัจจุบัน
14. Fernando Peyroteo ลงเล่น 354 ยิงรวม 558 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1937-1950
13. Glenn Ferguson ลงเล่น 1,047 ยิงรวม 563 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1987-2011
12. Zlatan Ibrahimovic ลงเล่น 986 ยิงรวม 573 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1999 – 2023
11. Lewandowski ลงเล่น 866 ยิงรวม 620 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 2006 – ปัจจุบัน
10. Eusébio ลงเล่น 648 ยิงรวม 620 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1957-1979
9. Abe Lenstra ลงเล่น 650 ยิงรวม 645 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1936-1963
8. Jimmy Jones ลงเล่น 614 ยิงรวม 647 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1946-1965
7. Gerd Müller ลงเล่น 793 ยิงรวม 735 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1962-1983
6. Ferenc Puskás ลงเล่น 746 ยิงรวม 741 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1943-1967
5. Romário ลงเล่น 963 ยิงรวม 753 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1985-2009
4. Pelé ลงเล่น 812 ยิงรวม 765 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1956-1977
3. Josef Bican ลงเล่น 530 ยิงรวม 805 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 1931-1955
2. Lionel Messi ลงเล่น 1,035 ยิงรวม 817 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 2004 – ปัจจุบัน
1. Cristiano Ronaldo ลงเล่น 1,174 ยิงรวม 844 ประตู ค้าแข่งช่วงระหว่างปี 2004 – ปัจจุบัน


ทั้ง 20 อันดับคือนักฟุตบอลระดับตำนานของโลกทั้งนั้น และ 2 อันดับแรกทั้ง โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ที่ยังคงค้าแข้งอยู่ในปัจจุบัน มีโอกาสจะยิงสะสมสถิติการถล่มประตูของตัวเองกันไปอีกเรื่อยๆ ที่หายากมากๆในการหาใครสักคนแซง 2 สุดยอดตำนานนี้ขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ได้ในวันข้างหน้า
#9


เกาะในประเทศที่สวยงามนั้นมีเยอะกันจนเลือกเที่ยวไม่ถูก ว่าควรจะไปที่ไหนดีก่อนกัน เพราะแต่ละที่มันสวยจนอยากจะไปทั้งหมดเลยทีเดียว แล้วความสวยงามของแต่ละเกาะนั้น คือความสวยงามระดับโลก ที่ติดอันดับในการสำรวจยอดนิยมอยู่แทบทุกปี ที่การันตีว่ามันยอดเยี่ยมยอดแค่ไหน ส่วนในบทความนี้จะมาเจาะลึกพูดถึงการยังเกาะที่ฮอตฮิตมากที่สุดเกาะหนึ่งในไทย นั่นก็คือ เกาะล้าน สถานที่ที่ทำให้เคยที่เคยมาไม่เคยจะจบแค่รอบเดียว แล้วจะจดจำเอาไว้ในความทรงจำที่แสนพิเศษตลอดไป

ความพิเศษของเกาะล้าน ที่ทำให้เกาะแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าดีจริงเด็ดจริง ต้องมาเยือนให้ได้นับว่าเยอะมากๆ นอกจากความสวยงามของน้ำทะเลที่ใสสะอาดตาอย่างมากแล้ว แต่ละหาดที่มีอยู่รอบๆเกาะ ต้องบอกว่างดงามอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหาดยังมุมใดของเกาะ ก็สวยจนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ไม่อยากจะให้มันผ่านไปไหน

อีกอย่างการเดินทางไปเกาะล้านจัดว่าง่ายเอามากๆ เพราะเมื่อไปถึงสถานที่ท่าเรือแล้ว จะมีเรือรับส่งที่เยอะคอยรับส่งนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลาไม่ต้องรอกันนานนัก ใช้ระยะเวลาเดินทางราวๆ 1 ชั่วโมงตามแต่สภาพอากาศของแต่ละช่วงวัน ซึ่งระหว่างเดินทางด้วยเรือ สามารถรับชมวิวได้อย่างสะดวกสบาย จะมองเห็นเกาะเต็มไปหมด ความเป็นธรรมชาติที่เห็นแล้วต้องประทับใจอย่างที่ไม่คาดคิด

เมื่อมาถึงเกาะล้านเข้าที่พักเสร็จสรรพแล้ว สามารถเดินทางไปแต่ละหาดที่อยู่ในเกาะได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ที่มีบริการอยู่เยอะ หรือจะเหมาจ้างคนขับรถให้ก็ได้ ซึ่งหาดที่อยากแนะนำให้ต้องไปเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็มี

- สะพานไม้หาดสังวาล ที่ถ่ายรูปได้สวยมากๆ ยิ่งหากว่าเป็นวันอากาศได้ จะถ่ายรูปสนุกสุดๆ
- หาดตาแหวน จะเรียกว่าที่นี่คือหาดแลนมาร์คที่ทุกคนจะต้องมาเมื่อมาเกาะล้านเลยก็ว่าได้ เพราะหาดที่นี่น้ำสวยมากๆ ใสจนมองเห็นปลาเล็กปลาน้อยมาว่ายวนเวียนรอบตัวเราได้เลย ทั้งยังมีกิจกรรมบริเวณอยู่เยอะ เช่น สกู๊ตเตอร์ เจ็ทสกี หรือว่า บานาน่า โบ้ท
- จุดชมวิวกังหันลม ที่เกาะล้านยังมีจุดชมวิวที่มองลงมาจากที่สูงเห็นรอบเกาะที่นิยมและสวยมากๆอยู่ด้วย คือที่นี่จุดชมวิวกังหันลม ซึ่งเดินทางขึ้นไปไม่ได้ยากเลย จะมองเห็นวิวที่สะดุดตา พร้อมสายลมที่จะเข้ามาสัมผัสตัวเรา ดีจนบอกไม่ถูก

เกาะล้าน ไม่ว่าใครที่มีที่นี่ต่างเก็บเอาความประทับใจกลับไปแทบทั้งนั้น และหากยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจไปเที่ยวที่ไหนดี ที่นี่คือตัวเลือกที่รับรองว่านอกจากจะไม่ผิดหวังแล้ว ยังคุ้มค่าดีต่อใจจนลืมไม่ลงตลอดไป
#10

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เลยดั้น จ.เพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายแห่ง ที่เห็นคนพูดถึงกันบ่อย และไปเที่ยวเยอะที่สุด ก็เห็นจะเป็นภูทับเบิก หรือไม่ก็เป็นเขาค้อ ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วด้วย นักท่องเที่ยวก็จะหนาตาเป็นพิเศษ แต่วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูอีกหนึ่งสถานที่ ที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน และหลายคนยังไม่รู้จักมาก่อน นั่นก็คือ "เลยดั้น" ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากคนยังไม่ค่อยได้เห็นที่เที่ยวประเภทนี้มากนัก

สำหรับเลยดั้น เป็นลานหินธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่มีความสวยงามแปลกตาเป็นพิเศษ ที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยเห็นสถานที่เที่ยวลักษณะนี้มากเท่าไหร่ ลานหินที่เลยดั้น จะเป็นลักษณะของหินทราย ที่มีรูปร่างแปลกตา เป็นรูปร่างที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ที่ใช้เวลาหลายร้อยปี ถึงจะเป็นรูปร่างแปลกตาได้ขนาดนี้ มีทั้งหลุดขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ แบบของการกัดกร่อนมีทั้ง แบบกัดจากด้านข้าง แบบเสาหินรูปวงกลม รูปวงรี รูปสะพานหิน เมื่อวันเวลาผ่านไป หินที่ถูกกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน ก็กลายเป็นความมหัศจรรย์ให้เราได้ไปชม ไปเก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก

อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือ น้ำที่ไหลลงมาจากชั้นหินต่างๆ เหล่านั้น มีความงามที่แปลกใหม่ บางครั้งน้ำก็ขังอยู่ในหลุดบ่อเหล่านั้น ก็กลายเป็นความงามอีกแบบหนึ่ง ยิ่งถ้ามีน้ำไหลด้วย ก็จะเป็นเป็นภาพที่สวยงามอย่างอีกเหมือนกัน
ความประทับใจของ เลยดั้น

ในการมาเที่ยวที่เลยดั้นนั้น อาจจะไม่ได้เหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ความประทับใจก็คือ การได้เดินทางมาชมธรรมชาติอย่างแท้จริง แม้ว่าจะไม่ได้มีเครื่องเล่นที่อลังการ แต่การได้ชมความงามของธรรมชาติที่แท้จริง ก็ถูกใจไม่น้อยทีเดียว

การเดินทาง
ในการเดินทางเพื่อมาชมความงามของลานหินเลยดั้น มาได้หลายวิธี ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลย 2216 จะเข้า ทางเข้าเลยดั้นจะอยู่ประมาณ 58-59 ลักษณะของถนนคอนกรีต

ค่าบริการในการเข้าชม: ฟรี

แนะนำที่เที่ยวเพิ่มเติม
ถ้าท่านอยากจะชมความสวยงามของลานหินเลยดั้นในช่วงที่สวยที่สุด ต้องมาในช่วงหน้าแล้ง เพราะว่าจะเป็นลานหินที่สวยงามได้มากกว่า หากไปช่วงที่น้ำมากเกินไป จะมองไม่เห็นความสวยงามของลานหินได้เต็มที่เท่าไหร่ หลังจากที่เที่ยวเลยดั้นเสร็จเรียบร้อย ท่านสามารถไปเที่ยวยังสถานที่อื่นเพิ่มเติมได้ เช่น ไปเที่ยวที่เขาค้อ หรือภูทับเบิก สัมผัสบรรยากาศที่นั่น พักค้างคืนที่นั่นก็ดีไม่น้อยทีเดียว

สถานที่ตั้งของ เลยดั้น
ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกะโปะ หมู่ 6 ตำบลหลักด่าน อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์