NorthWest Brewing Company

สำหรับรถมอเตอร์ไซด์เเนว Custom Bobber เเล้วได้รับความนิยมในหมู่นักบิดมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ เเละมีหลากหลายค่ายผู้ผลิตที่ผลิตรถเเนวนี้ออกมาสู่ตลาด หนึ่งในนั้นก็คือฮอนด้าที่พยายามดันออกมาจำหน่าย เเละรถอย่างรุ่น Honda REBEL1100 (DCT) ก็นับว่าประสบความสำเร็จมาโดยตลอดรวมไปถึงเวอร์ชั่นใหม่คันนี้อีกด้วย

Honda REBEL1100 (DCT) นั้นมาพร้อมกับมิติขนาดของตัวรถที่ใหญ่ โดยมีความกว้าง 834 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,240 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,115 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,520 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 700 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 24°/110 มิลลิเมตร โดยมีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 233 กิโลกรัม เป็น Custom Bobber โครงร่างใหญ่เลยทีเดียว

ขุมกำลังเครื่องยนต์ของ Honda REBEL1100 (DCT) ก็จัดมาเเรงด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,084 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์รุ่น SC83E เเบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 8 วาล์ว parallel twin with 270° crank เเละมี Uni-cam ตามมาตรฐาน EURO5 compliant มีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 92.0 x 81.5 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.1 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ คลัตซ์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed Dual Clutch Transmission ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ โซ่ขับเคลื่อน โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 1.863/2.625 ส่วนระบบเกียร์เป็นเเบบ 1st gear : 2.562 2nd gear : 1.761 3rd gear : 1.375 4th gear : 1.133 5th gear : 0.972 6th gear : 0.882 โดยระบบจุดระเบิดเป็น Full transistorized Ignition  เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ สตาร์ทโดยมอเตอร์ไฟฟ้า นับว่าเครื่องยนต์เเรงไม่ใช่เล่นสำหรับ Custom Bobber รุ่นนี้

Honda REBEL1100 (DCT) นั้นมีเฟรมที่เเข็งเเกร่งตามเเบบฉบับของรถเเนว Custom Bobber โดยระบบกันสะเทือนนั้นมีโช้กอัพเคลือบไททาเนียมออกไซด์เเบบพิเศษบนเกนโช้กอัพขนาด 43 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นโช้กอัพคู่เเบบใหม่ ส่วนระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ Radial mounted monoblock four-piston brake caliper, 330mm floating single disc ในขณะที่ระบบห้ามล้อหลังจะเป็นเเบบ Two Single piston caliper, 256mm single disc โดยมีขนาดยางหน้า 130/70B18 M/C 63H ส่วนขนาดยางหลัง 180/65B16 M/C 81H หน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นทรงกลมขนาด 120 มิลลิเมตร เเบบ Full LCD ส่วนระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟกรอบทะเบียน เป็นเเบบ Full LED โดยโคมไฟหน้ามีขนาดใหญ่ทรงกลมตามสไตล์ Custom Bobber ภายในมีหลอดไฟ 4 ดวง เบาะนั่งหนังเเท้สบายทุกการขับขี่ โดยมี 2 สีให้เลือกทั้งสี GUN METAL BLACK METTALIC (BLK) เเละสี BORDEAUX RED (R-B)

สนราคาของ Honda REBEL1100 (DCT) นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 429,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่น่าสนใจเป็นอย่างมากหากเทียบกับสเปกของตัวรถที่เพียบพร้อม

Honda CBR650R เป็นบิ๊กไบค์เเนวซุปเปอร์สปอร์ต ได้รับความนิยมอย่างมากอีกรุ่นของฮอนด้า เเละเป็นรถที่ยอดขายดีใน 650 Series จนทำให้มีการออกรถมาอีกหลายๆรุ่นตามออกมา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในรุ่นตำนานของฮอนด้าเลยก็ว่าได้

Honda CBR650R นั้นมาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจ โดยมันมีขนาดความกว้างอยู่ที่ 784 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,145 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,076 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,449 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 148 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 810 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 25°30 / 101 มิลลิเมตร โดยถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 15.4 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 202 กิโลกรัม ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีสเปกน่าสนใจ

โดย Honda CBR650R มาพร้อมกับสมรรถนะขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 649 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์รุ่น RH01Eเเบบระบายความร้อนด้วยน้ำ จำนวน 4 สูบ  มีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 67 x 46 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.6 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ คลัตซ์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed manual transmission ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ โซ่ขับเคลื่อน โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 1.690 / 2.800 ส่วนระบบเกียร์เป็นเเบบ 1st gear : 3.071 / 2nd gear : 2.352 / 3rd gear : 1.888 / 4th gear : 1.560 / 5th gear : 1.370 / 6th gear : 1.214  โดยระบบจุดระเบิดเป็น Fully digital transistorised เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ สตาร์ทโดยมอเตอร์ไฟฟ้า

โดย Honda CBR650R มีเฟรมที่เเข็งเเกร่งเพราะดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เเละมีระบบกันสะเทือนที่ทรงพลังโดยระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ 41mm USD separate function fork ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Monoshock damper with adjustable preload ในขณะที่ระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ Hydraulic double disc ส่วนระบบห้ามล้อหลังก็เป็นเเบบ Hydraulic disc โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 180/55ZR17M/C (73W) หน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นทรงสี่เหลี่ยมเเสดงผลเเบบดิจิตอลเเละมีไฟบอกตำเเหน่งเกียร์ พร้อมกับที่ชาร์ตไฟสำรองเเบบ USB PORTส่วนระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟกรอบทะเบียน จะเป็นเเบบ Full LED โดยโคมไฟหน้ามีสไตล์โฉบเฉี่ยวสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ตัวบอดี้มาพร้อมกับสีให้เลือก 3 สี ทั้งสีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC สีเเดง GRAND PRIX RED (RED) เเละสีเทา MAT DIM GRAY METALLIC (G-B)

ส่วนทางด้านของราคานั้น Honda CBR650R เคาะราคาขายออกมาที่ 312,100 บาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเซุปเปอร์สปอร์ตรุ่นพิมพ์นิยมที่ไม่ควรพลาดมาสัมผัสกับการขับขี่ทำความเร็วทางเรียบ

ปลุกความบ้าระห่ำในตัวคุณด้วยการลองสัมผัสกับความเร็วจากโรดสเตอร์สุดปราดเปรียวอย่าง BMW S 1000 R ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ขั้นสูง เเละดุดันด้วยรูปลักษณ์ที่เเสนจะเร้าใจ

BMW S 1000 R มีมิติโครงสร้างตัวรถที่ลงตัวเเละน่าสนใจไม่น้อย โดยมีขนาดความยาวอยู่ที่ 2,090 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,115 มิลลิเมตร ความกว้างอยู่ที่ 812 มิลลิเมตร  ระดับความสูงของที่นั่งอยู่ที่ 830 มิลลิเมตร ค่าความกว้างของช่วงขาในซีรีส์อยู่ที่ 1,835 มิลลิเมตร ความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ได้ 16.5 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 4 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 407 กิโลกรัม โหลดเสริม (สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอยู่ที่ 208 กิโลกรัม

BMW S 1000 R มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบสี่สูบแถวเรียงสี่จังหวะที่ระบายความร้อนด้วยน้ำมันเครื่อง/น้ำ สี่วาล์วต่อกระบอกสูบ มีรู x ช่วงชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร X 49.7 มิลลิเมตร มีความจุเครื่องยนต์ขนาด 999 ซีซี ให้กำลัง 165 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 114 นิวตันเมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 12.5:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบ การฉีดเชื้อเพลิงเข้าท่อไอดีแบบอิเล็กทรอนิกส์/ชุดควบคุมเครื่องยนต์แบบดิจิทัล: BMS-O พร้อมชุดควบคุมการจ่ายก๊าซปีกผีเสื้อแรงเคลื่อนไฟฟ้า ส่วนการควบคุมการปล่อยไอเสียเป็นเเบบเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา 3 ทางที่มีระบบควบคุม โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 6.2 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ น้ำมันไร้สารตะกั่ว Super plus (เอทานอลไม่เกิน 5 %, E5) / RON 98 / 93 AKI ส่วนไดชาร์จเป็นเเบบ ไดชาร์จแม่เหล็กถาวร 450 วัตต์ แบตเตอรี่ เป็นเเบบ 12 โวลต์ / 8 แอมป์ชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบคลัตช์เปียกซ้อนกันหลายแผ่น พร้อมระบบ Anti-Hopping พร้อมระบบเกียร์เเบบ 6 สปีดที่เฟืองขับกัน รวมไว้ในตัวเรือนเครื่องยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยโซ่ 525, 17/45 เเละมีการควบคุมแรงฉุดเป็นเเบบ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบไดนามิก (DTC)

โดยที่เฟรมของ BMW S 1000 R จะเป็นเเบบ เฟรมเชื่อมอะลูมิเนียมคอมโพสิตแบบรองรับเครื่องยนต์ ที่ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ ก้ามปูแบบกลับหัวแบบเทเลสโคปิกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 45 มิลลิเมตร พร้อมปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวสำหรับพรีโหลดของสปริงได้ ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ แขนสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม, ระบบ Full Floater Pro, สปริงโช้คอัพกลาง พร้อมปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวสำหรับพรีโหลดของสปริงได้ โดยที่ระยะการเคลื่อนที่ของระบบกันสะเทือนหน้า/หลังอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร / 117 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร มุมคาสเตอร์อยู่ที่ 96 มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 65.8 องศา โดยล้อเป็นเเบบ ล้ออะลูมิเนียมหล่อ โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.50" x 17" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 6.00" x 17" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 120/70 ZR 17 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 190/55 ZR 17 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 320 มิลลิเมตร คาลิเปอร์แบบตายตัวสี่สูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยวเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 220 มิลลิเมตร คาลิเปอร์เบรกลอยตัวสูบเดี่ยว ส่วนระบบ ABS เป็นเเบบ BMW Motorrad Integral ABS, partial integral โดยที่มุมมองการมองเห็นในซีรีส์จากเทคโนโลยี LED รอบคัน โดยสามารถเสริมได้ด้วย Headlight Pro รวมถึงระบบไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ การเเสดงผลการขับขี่เป็นเเบบจอภาพ TFT ขนาด 6.5 นิ้วและระบบ Connectivity ในซีรีส์ มาพร้อมกับหน้าจอหลักสามหน้าจอ และสามหน้าจอหลักใน M Package แบบเดียวกับใน RR นอกจากนี้ยังมีระบบการวางแผนเส้นทางเดินรถผ่านแอพ BMW Connected อีกด้วย ตัวบอดี้มีสีเงิน Hockenheim silver metallic สีเดียว

ราคาขายของ BMW S 1000 R มีราคาเริ่มต้นที่ 789,000 บาท